ตรวจคุณภาพน้ำดื่ม ตรวจอะไรบ้าง

ตรวจคุณภาพน้ำดื่ม ตรวจอะไรบ้าง

ตรวจคุณภาพน้ำดื่ม

ทำไมการตรวจคุณภาพน้ำดื่มจึงสำคัญ

น้ำดื่มเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของทุกคน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า “น้ำใส” ไม่ได้หมายความว่าสะอาดเสมอไป เพราะในน้ำอาจมีสารปนเปื้อนหรือเชื้อโรคที่มองไม่เห็น การตรวจคุณภาพน้ำดื่มจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจว่าน้ำที่เราใช้ดื่มหรือผลิตนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น โรคทางเดินอาหาร ผิวหนังอักเสบ หรือการสะสมของโลหะหนักในร่างกาย

การตรวจคุณภาพน้ำจึงไม่ใช่แค่เรื่องของโรงงานผลิตน้ำดื่มเท่านั้น แต่รวมถึงบ้านพักอาศัย โรงเรียน โรงพยาบาล ไปจนถึงคอนโดมิเนียม เพราะน้ำที่ไหลผ่านท่อหรือถังเก็บอาจเปลี่ยนคุณภาพได้เมื่อเวลาผ่านไป

ตรวจคุณภาพน้ำดื่ม ตรวจอะไรบ้าง

การตรวจคุณภาพน้ำดื่มจะประเมินทั้งลักษณะภายนอกและส่วนประกอบทางเคมีและจุลชีววิทยา เพื่อดูว่าน้ำอยู่ในมาตรฐานที่เหมาะสมต่อการบริโภคหรือไม่ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักคือ

1. การตรวจทางกายภาพ

เป็นการตรวจดูคุณสมบัติพื้นฐานของน้ำที่มองเห็นหรือรับรู้ได้ เช่น

  • ความขุ่น: ถ้าน้ำขุ่นเกินไป อาจมีตะกอนหรือสิ่งสกปรกปนเปื้อน

  • สี กลิ่น และรส: น้ำที่ดีควรไม่มีสี กลิ่น หรือรสผิดปกติ

  • ค่า pH: บ่งบอกความเป็นกรด-ด่างของน้ำ ค่าที่เหมาะสมสำหรับน้ำดื่มอยู่ระหว่าง 6.5 – 8.5

2. การตรวจทางเคมี

เป็นการตรวจหาสารเคมีหรือโลหะที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น

  • คลอรีนตกค้าง: ตรวจว่ามีมากเกินไปหรือไม่ เพราะอาจระคายเคืองผิวและระบบทางเดินอาหาร

  • ฟลูออไรด์: ปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้ฟันหรือกระดูกเปราะ

  • เหล็กและแมงกานีส: มักทำให้น้ำมีกลิ่นสนิมและมีตะกอน

  • โลหะหนัก (ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม): หากสะสมในร่างกายอาจส่งผลต่อระบบประสาทและอวัยวะสำคัญ

  • สารอินทรีย์ตกค้าง เช่น ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีจากภาคอุตสาหกรรม

3. การตรวจทางจุลชีววิทยา

เป็นการตรวจหาเชื้อโรคที่อาจปนเปื้อนในน้ำ เช่น

  • เชื้อโคลิฟอร์ม: ตัวบ่งชี้ว่าน้ำอาจปนเปื้อนสิ่งปฏิกูล

  • เชื้ออีโคไล: พบได้ในอุจจาระของคนหรือสัตว์ ถ้าพบน้ำถือว่าไม่ปลอดภัยต่อการดื่ม

  • แบคทีเรียก่อโรคอื่นๆ เช่น เชื้อซัลโมเนลลา หรือเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหาร

การตรวจในส่วนนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่ใช้บริโภคโดยตรง เช่น น้ำบาดาล น้ำประปาชุมชน หรือแหล่งน้ำในถังพัก

การตรวจทางจุลชีววิทยา
การตรวจทางจุลชีววิทยา

ค่ามาตรฐานคุณภาพน้ำดื่มที่ควรรู้

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกรมอนามัยและองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดค่ามาตรฐานไว้เพื่อใช้เป็นแนวทาง เช่น

  • ค่า pH อยู่ระหว่าง 6.5 – 8.5

  • ความขุ่นไม่เกิน 5 NTU

  • เหล็กไม่เกิน 0.3 มิลลิกรัม/ลิตร

  • ตะกั่วไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัม/ลิตร

  • ฟลูออไรด์ไม่เกิน 1.5 มิลลิกรัม/ลิตร

  • ไม่ควรพบเชื้อโคลิฟอร์มและอีโคไล ในน้ำดื่ม

ค่ามาตรฐานเหล่านี้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มของตนเองได้เบื้องต้นว่าปลอดภัยตามเกณฑ์หรือไม่

ตรวจคุณภาพน้ำดื่มที่ไหนได้บ้าง

การตรวจคุณภาพน้ำสามารถทำได้ทั้งในหน่วยงานรัฐและเอกชน โดยแต่ละแห่งมีความเชี่ยวชาญแตกต่างกัน เช่น

  • กรมวิทยาศาสตร์บริการ: รับตรวจทั้งน้ำประปา น้ำดื่ม และน้ำใช้ทั่วไป

  • กรมอนามัย หรือ ศูนย์สุขภาพสิ่งแวดล้อม ประจำจังหวัด

  • ห้องปฏิบัติการเอกชนที่ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025 เพื่อผลตรวจที่แม่นยำ

  • บริษัทตรวจคุณภาพน้ำโดยเฉพาะ ที่ให้บริการเก็บตัวอย่างน้ำถึงหน้างาน พร้อมรายงานผล

หากเป็นบ้านเรือนทั่วไป สามารถเก็บตัวอย่างน้ำส่งตรวจได้เอง แต่ควรทำตามคำแนะนำของห้องแล็บเพื่อให้ผลไม่คลาดเคลื่อน

ความถี่ในการตรวจคุณภาพน้ำดื่มที่แนะนำ

น้ำเป็นสิ่งที่คุณภาพเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อมและการใช้งาน ดังนั้นการตรวจอย่างสม่ำเสมอจึงสำคัญมาก โดยแนะนำดังนี้

  • บ้านพักอาศัยทั่วไป ควรตรวจปีละ 1 ครั้ง

  • โรงงานผลิตน้ำดื่ม ควรตรวจทุก 3 – 6 เดือน

  • สถานที่สาธารณะ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ควรตรวจอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

  • หากสังเกตว่าน้ำมีกลิ่น รส หรือสีผิดปกติ ควรส่งตรวจทันที

การตรวจอย่างต่อเนื่องช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพและเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพน้ำที่ดื่มทุกวัน

วิธีตรวจคุณภาพน้ำดื่มเบื้องต้นด้วยตัวเอง

แม้การตรวจจากห้องแล็บจะให้ผลที่แม่นยำที่สุด แต่เรายังสามารถตรวจเบื้องต้นได้เองง่ายๆ เช่น

  • ใช้ ชุดตรวจน้ำสำเร็จรูป เพื่อตรวจค่า pH หรือคลอรีน

  • สังเกต สี กลิ่น รส หากผิดปกติควรหยุดดื่มทันที

  • ตรวจดู ตะกรันหรือคราบสนิม ในภาชนะเก็บน้ำ

  • หากมี คราบเขียวหรือขาว บนก๊อกน้ำ อาจมีปัญหาค่า pH หรือโลหะในน้ำ

  • ควรล้างถังเก็บน้ำหรือเปลี่ยนไส้กรองตามระยะที่กำหนด

แม้เป็นเพียงการตรวจขั้นต้น แต่ช่วยให้รู้สัญญาณเตือนก่อนน้ำจะปนเปื้อนรุนแรง

คุณภาพน้ำดื่มเบื้องต้นด้วยตัวเอง
คุณภาพน้ำดื่มเบื้องต้นด้วยตัวเอง

สรุป ทำไมควรตรวจคุณภาพน้ำดื่มอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจคุณภาพน้ำดื่มไม่เพียงเพื่อความสบายใจ แต่เป็นการป้องกันโรคและปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว น้ำที่มีสิ่งปนเปื้อน เช่น เชื้อแบคทีเรียหรือโลหะหนัก อาจส่งผลต่อระบบประสาท ผิวหนัง หรืออวัยวะภายในโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเราตรวจอย่างสม่ำเสมอ จะสามารถแก้ไขและบำรุงรักษาระบบกรองน้ำได้ตรงจุด รวมถึงมั่นใจได้ว่าน้ำที่ดื่มทุกวันสะอาด ปลอดภัย และเหมาะสมต่อการบริโภคอย่างแท้จริง

คำถามที่พบบ่อย

ตรวจคุณภาพน้ำดื่มต้องใช้เวลานานแค่ไหน?
โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 3–7 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของการตรวจและจำนวนพารามิเตอร์ที่ต้องการ

การตรวจเชื้อน้ำดื่มต่างจากการตรวจสารเคมีไหม?
ต่างกัน การตรวจเชื้อจะเน้นหาจุลินทรีย์ที่ก่อโรค ส่วนการตรวจสารเคมีจะมุ่งหาสารปนเปื้อนที่สะสมในร่างกาย เช่น โลหะหนัก

ถ้าน้ำมีกลิ่นสนิม ควรตรวจค่าอะไร?
ควรตรวจค่าเหล็ก (Fe) และแมงกานีส (Mn) ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นและสีในน้ำ

มีเครื่องกรองน้ำอยู่แล้ว ยังจำเป็นต้องตรวจคุณภาพน้ำไหม?
จำเป็น เพราะไส้กรองอาจเสื่อมสภาพหรือมีการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ควรตรวจปีละ 1 ครั้ง

ตรวจคุณภาพน้ำดื่มมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่?
โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 1,000 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนรายการตรวจและประเภทของห้องปฏิบัติการ

ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำกับ WE Environment

หากคุณกำลังมองหาบริการตรวจคุณภาพน้ำที่ได้มาตรฐาน
WE Environment ให้บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำแบบครบวงจร ทั้งน้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำประปา และน้ำใต้ดิน ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญและห้องปฏิบัติการที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 17025

บริการของเราเน้นความถูกต้อง รวดเร็ว พร้อมรายงานผลเข้าใจง่ายและคำแนะนำปรับปรุงคุณภาพน้ำอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก โรงงาน โรงเรียน หรือธุรกิจผลิตน้ำดื่ม เราพร้อมให้คำปรึกษาและเก็บตัวอย่างน้ำถึงสถานที่ของคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำที่คุณใช้ “สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐานจริง”

อ่านเพิ่มเติม:

บทความและข่าวสารที่เกี่ยวข้อง

บริการตรวจน้ำเสียอุตสาหกรรม

ตรวจวิเคราะห์น้ำเสีย สำคัญอย่างไรต่อโรงงานและธุรกิจที่ต้องปล่อยน้ำทิ้ง

เรื่องการจัดการน้ำเสียไม่ใช่แค่การทำระบบบำบัดน้ำให้ดูสะอาดแล้วปล่อยออกไปเท่านั้น แต่เป็นเรื่องความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และกฎหมายด้วย การตรวจวิเคราะห์น้ำเสียเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้รู้ว่าน้ำที่ปล่อยออกจากโรงงานหรือกิจการมีคุณภาพตามมาตรฐานหรือไม่ ไม่ใช่เพียงเพื่อให้ผ่านข้อกำหนดของรัฐ แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการควบคุมระบบบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันปัญหาน้ำเสียสะสม น้ำมีกลิ่น น้ำสีผิดปกติ หรือเหตุร้องเรียนจากชุมชนใกล้เคียง ตรวจวิเคราะห์น้ำเสียคืออะไร และทำไมธุรกิจต้องให้ความสำคัญ การตรวจน้ำเสียคือการนำตัวอย่างน้ำที่ผ่านระบบบำบัดหรือจุดปล่อยน้ำทิ้ง มาวิเคราะห์ค่าต่างๆ เพื่อดูว่าคุณภาพน้ำอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ การตรวจไม่ใช่แค่เรื่อง “ผ่านไม่ผ่าน” แต่ช่วยให้รู้ว่าระบบบำบัดของเราทำงานดีแค่ไหน ถ้าเจอปัญหาจะได้แก้ไขทัน ไม่ให้ค่าเสียหายหรือความเสื่อมโทรมสะสม ทุกวันนี้ธุรกิจหลากหลายต้องตรวจน้ำเสียเป็นประจำ ไม่ใช่แค่โรงงานขนาดใหญ่ แต่รวมถึงโครงการหมู่บ้าน โรงแรม

อ่านเพิ่มเติม »
วิเคราะห์โลหะหนักในน้ำ

วิเคราะห์โลหะหนักในน้ำสำคัญอย่างไร ทำไมต้องตรวจเป็นประจำ

น้ำคือทรัพยากรที่สำคัญต่อชีวิต แต่ในยุคอุตสาหกรรมปัจจุบัน น้ำไม่ได้สะอาดเสมอไป โดยเฉพาะ “โลหะหนัก” ซึ่งเป็นสารพิษที่อาจปนเปื้อนในน้ำจากกระบวนการผลิต โรงงาน หรือแม้แต่ท่อส่งน้ำที่เสื่อมสภาพ การวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำที่เราใช้ทุกวันมีความปลอดภัยตามมาตรฐาน วิเคราะห์โลหะหนักในน้ำคืออะไร การวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำคือการตรวจหาปริมาณธาตุโลหะที่มีความหนาแน่นสูง เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม หรือทองแดง ซึ่งในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ โดยการวิเคราะห์นี้สามารถทำได้ทั้งในน้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำบาดาล และน้ำเสียจากโรงงาน เพื่อประเมินความปลอดภัยและตรวจสอบว่าค่าที่พบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ การตรวจวิเคราะห์จะใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อวัดค่าความเข้มข้นของโลหะหนักในหน่วย

อ่านเพิ่มเติม »
ตรวจคุณภาพน้ำดื่ม

ตรวจคุณภาพน้ำดื่ม ตรวจอะไรบ้าง

ทำไมการตรวจคุณภาพน้ำดื่มจึงสำคัญ น้ำดื่มเป็นสิ่งจำเป็นต่อชีวิตประจำวันของทุกคน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า “น้ำใส” ไม่ได้หมายความว่าสะอาดเสมอไป เพราะในน้ำอาจมีสารปนเปื้อนหรือเชื้อโรคที่มองไม่เห็น การตรวจคุณภาพน้ำดื่มจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจว่าน้ำที่เราใช้ดื่มหรือผลิตนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น โรคทางเดินอาหาร ผิวหนังอักเสบ หรือการสะสมของโลหะหนักในร่างกาย การตรวจคุณภาพน้ำจึงไม่ใช่แค่เรื่องของโรงงานผลิตน้ำดื่มเท่านั้น แต่รวมถึงบ้านพักอาศัย โรงเรียน โรงพยาบาล ไปจนถึงคอนโดมิเนียม เพราะน้ำที่ไหลผ่านท่อหรือถังเก็บอาจเปลี่ยนคุณภาพได้เมื่อเวลาผ่านไป ตรวจคุณภาพน้ำดื่ม ตรวจอะไรบ้าง การตรวจคุณภาพน้ำดื่มจะประเมินทั้งลักษณะภายนอกและส่วนประกอบทางเคมีและจุลชีววิทยา เพื่อดูว่าน้ำอยู่ในมาตรฐานที่เหมาะสมต่อการบริโภคหรือไม่ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักคือ

อ่านเพิ่มเติม »