น้ำคือทรัพยากรที่สำคัญต่อชีวิต แต่ในยุคอุตสาหกรรมปัจจุบัน น้ำไม่ได้สะอาดเสมอไป โดยเฉพาะ “โลหะหนัก” ซึ่งเป็นสารพิษที่อาจปนเปื้อนในน้ำจากกระบวนการผลิต โรงงาน หรือแม้แต่ท่อส่งน้ำที่เสื่อมสภาพ การวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำจึงเป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำที่เราใช้ทุกวันมีความปลอดภัยตามมาตรฐาน
วิเคราะห์โลหะหนักในน้ำคืออะไร
การวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำคือการตรวจหาปริมาณธาตุโลหะที่มีความหนาแน่นสูง เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม หรือทองแดง ซึ่งในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ โดยการวิเคราะห์นี้สามารถทำได้ทั้งในน้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำบาดาล และน้ำเสียจากโรงงาน เพื่อประเมินความปลอดภัยและตรวจสอบว่าค่าที่พบอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่
การตรวจวิเคราะห์จะใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อวัดค่าความเข้มข้นของโลหะหนักในหน่วย “มิลลิกรัมต่อลิตร” (mg/L) ซึ่งสามารถบ่งบอกได้ว่าน้ำมีการปนเปื้อนมากน้อยเพียงใด
ทำไมต้องวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำ
หลายคนอาจคิดว่าน้ำที่ใสสะอาดน่าจะปลอดภัย แต่จริงๆ แล้วอาจมีสารพิษที่มองไม่เห็นปนอยู่ โดยเฉพาะโลหะหนักที่สะสมในร่างกายได้แม้ในปริมาณน้อย ซึ่งเมื่อสะสมต่อเนื่องนานๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น โรคไตเรื้อรัง ระบบประสาทเสื่อม หรือมะเร็งบางชนิด
การวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำจึงมีความสำคัญในหลายด้าน เช่น
-
ป้องกันอันตรายจากสารพิษที่สะสมในร่างกาย
-
ตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
-
เฝ้าระวังการปล่อยน้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรม
-
ช่วยป้องกันการปนเปื้อนในน้ำใช้ทางเกษตรและประมง
-
สร้างความมั่นใจให้องค์กรและประชาชนในการใช้น้ำอย่างปลอดภัย

โลหะหนักที่มักพบในน้ำและผลกระทบต่อสุขภาพ
โลหะหนักมีหลายชนิด แต่ละชนิดส่งผลกระทบต่อร่างกายต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น
-
ตะกั่ว: ทำลายระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะในเด็กอาจทำให้พัฒนาการช้ากว่าปกติ
-
ปรอท: ส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางและการทำงานของไต
-
แคดเมียม: ทำให้เกิดโรคไตเรื้อรังและความผิดปกติของกระดูก
-
ทองแดง: หากเกินค่ามาตรฐานอาจทำให้คลื่นไส้และอาเจียน
-
สังกะสี: แม้เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ แต่หากเข้มข้นมากอาจทำให้ระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร
โลหะเหล่านี้อาจเข้าสู่ร่างกายจากการดื่มน้ำหรือการสัมผัสโดยตรง ซึ่งเมื่อสะสมในเนื้อเยื่อจะกำจัดออกได้ยากและก่อให้เกิดพิษสะสมในระยะยาว
แหล่งที่มาของโลหะหนักในน้ำ
โลหะหนักในน้ำอาจมีต้นกำเนิดจากหลายแหล่ง ทั้งทางธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ เช่น
-
การปล่อยน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
-
การชะล้างสารเคมีทางเกษตรเข้าสู่แหล่งน้ำ
-
การกัดกร่อนของท่อเหล็กหรือท่อทองแดงในระบบประปา
-
การทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่ลงในแหล่งน้ำ
-
การชะล้างของตะกอนดินในพื้นที่ปนเปื้อนโลหะ
การรู้แหล่งที่มาเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้สามารถวางแผนการบำบัดน้ำและป้องกันการปนเปื้อนซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรฐานค่าความปลอดภัยของโลหะหนักในน้ำ
หน่วยงานต่างๆ เช่น กรมควบคุมมลพิษ หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดค่ามาตรฐานของโลหะหนักในน้ำเพื่อใช้เป็นแนวทาง ดังนี้
| โลหะหนัก | ค่ามาตรฐาน (mg/L) | ผลกระทบเมื่อเกินค่ามาตรฐาน |
|---|---|---|
| ตะกั่ว (Pb) | 0.01 | ทำลายระบบประสาทและสมอง |
| ปรอท (Hg) | 0.001 | มีพิษต่อระบบประสาทส่วนกลาง |
| แคดเมียม (Cd) | 0.003 | ทำลายไตและกระดูก |
| ทองแดง (Cu) | 1.0 | ระคายเคืองระบบทางเดินอาหาร |
| สังกะสี (Zn) | 3.0 | มีรสและกลิ่นในน้ำสูงเกินไป |
การตรวจสอบค่าเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะสำหรับน้ำที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมและการผลิตอาหาร
วิธีการตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำ
การตรวจวิเคราะห์ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่มีความแม่นยำสูง โดยวิธีที่นิยม ได้แก่
-
Atomic Absorption Spectrophotometry (AAS): ตรวจวัดโลหะหนักได้หลายชนิดพร้อมกัน
-
Inductively Coupled Plasma (ICP): ให้ค่าที่แม่นยำสูงและเหมาะกับการตรวจในระดับอุตสาหกรรม
-
Colorimetric Method: ใช้หลักการเปลี่ยนสีของน้ำตัวอย่างเพื่อดูค่าความเข้มข้นเบื้องต้น
ห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียดและออกผลวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือ

ตัวอย่างแหล่งน้ำที่ควรตรวจเป็นประจำ
ไม่เพียงแต่น้ำดื่มเท่านั้นที่ต้องตรวจโลหะหนัก แต่ยังมีแหล่งน้ำประเภทอื่นที่ควรตรวจเป็นระยะ เช่น
-
น้ำบาดาลในบ้านพักหรืออาคาร
-
น้ำใช้ในโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม
-
น้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ
-
น้ำเสียจากระบบบำบัดก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม
-
น้ำใช้ในเกษตรกรรมหรือพื้นที่ใกล้โรงงาน
การตรวจเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าน้ำที่ใช้อยู่ปลอดภัยและไม่เกินค่ามาตรฐาน
แนวทางลดการปนเปื้อนโลหะหนักในน้ำ
เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของโลหะหนักในน้ำ ควรดำเนินการดังนี้
-
ตรวจสอบระบบท่อและอุปกรณ์ประปาให้อยู่ในสภาพดี
-
หลีกเลี่ยงการทิ้งสารเคมีหรือขยะอันตรายลงในท่อระบายน้ำ
-
บำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่ธรรมชาติ
-
ใช้ระบบกรองน้ำที่ได้มาตรฐานในครัวเรือน
-
ตรวจคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอโดยผู้เชี่ยวชาญ
การป้องกันตั้งแต่ต้นทางจะช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพและรักษาความสมดุลของสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว
บทบาทของการตรวจวิเคราะห์ต่อสิ่งแวดล้อม
การตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำไม่เพียงแต่เพื่อปกป้องสุขภาพคนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมสามารถเฝ้าระวังมลพิษในระบบน้ำอย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนสำคัญของการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ช่วยลดการปนเปื้อนสู่แม่น้ำ ลำคลอง และระบบนิเวศทางน้ำ
สรุป ทำไมการวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำจึงจำเป็น
การวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำคือการลงทุนเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและสิ่งแวดล้อม เพราะแม้เพียงปริมาณน้อย โลหะหนักก็สามารถก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ การตรวจคุณภาพน้ำอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
คำถามที่พบบ่อย
การตรวจโลหะหนักในน้ำต้องตรวจโลหะอะไรบ้าง?
ส่วนใหญ่จะตรวจตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ทองแดง และสังกะสี ซึ่งเป็นโลหะที่พบได้บ่อยและมีผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์
ต้องตรวจน้ำบ่อยแค่ไหนถึงจะปลอดภัย?
ควรตรวจอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ใกล้โรงงานหรือมีการใช้น้ำบาดาล
หากพบว่ามีโลหะหนักเกินค่ามาตรฐานควรทำอย่างไร?
ควรหยุดใช้น้ำทันทีและติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจซ้ำและดำเนินการบำบัดน้ำอย่างถูกวิธี
น้ำประปาในเมืองจำเป็นต้องตรวจโลหะหนักไหม?
แม้น้ำประปาผ่านการกรองแล้ว แต่ท่อเก่าหรือระบบจ่ายน้ำที่เสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนได้
การตรวจโลหะหนักในน้ำใช้เวลานานไหม?
โดยทั่วไปการวิเคราะห์ในห้องแล็บใช้เวลาประมาณ 3–5 วันทำการ ขึ้นอยู่กับจำนวนตัวอย่างและวิธีที่ใช้ตรวจวัด
ตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำกับ WE Environment
หากองค์กรของคุณต้องการตรวจสอบคุณภาพน้ำให้ได้มาตรฐานและปลอดภัยต่อการใช้งาน
WE Environment ให้บริการ ตรวจวิเคราะห์โลหะหนักในน้ำแบบครบวงจร
ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม น้ำใช้ หรือน้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรม เรามีห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน เครื่องมือวิเคราะห์ทันสมัย และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะ
บริการของ WE Environment ครอบคลุมตั้งแต่การเก็บตัวอย่างน้ำ การวิเคราะห์ค่ามลพิษ ไปจนถึงการจัดทำรายงานผลที่สามารถใช้ยื่นต่อหน่วยงานราชการได้ พร้อมให้คำปรึกษาแนวทางปรับปรุงคุณภาพน้ำอย่างถูกหลักสิ่งแวดล้อม
มั่นใจในคุณภาพการบริการที่ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าน้ำทุกหยดที่ใช้ “ปลอดภัยจริง” กับบริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำครบวงจรจาก WE Environment
อ่านเพิ่มเติม:


